|
|
|
|
|
|
|
เลนส์
(LENS) |
|
|
เลนส์เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ
ของกล้องถ่ายภาพทำมาจากวัสดุโปร่งใสเช่น
แก้วหรือ พลาสติกทำหน้าที่หักเหแสง สะท้อนจากวัตถเกิดุ |
|
|
ภาพจริงหัวกลับบน
ระนาบของฟิล์มเลนส์ของกล้องถ่ายภาพ อาจเป็นเลนส์นูนอันเดียวหรือเป็นชุดเลนส์
ย่อยๆ หลายอันประกอบกัน |
|
|
เพื่อให้สามารถปรับ
การถ่ายภาพ ได้หลายรูปแบบชิ้นแก้วหรือพลาสติกทุกชิ้นที่ประกอบขึ้น
เป็นเลนส์เกิดจากความประณีตในการผลิต |
|
|
เพื่อให้มีความไวในการรับแสง
มีคุณภาพความคมชัดถ่ายทอดสีสันตลอดจนมีการแยกขยายรายละเอียดของวัตถุ
(Resolution) ได้ดี |
|
|
เลนส์บางตัวอาจมีการเคลือบผิวด้วย
น้ำยาชั้นดีที่เราเรียกว่า การ Coated
ผิว เลนส์ เพื่อให้เลนส์ มีคุณภาพในการรับแสงและช่วยลด
|
|
|
แสงสะท้อนต่างๆให้เกิดน้อย
ลง เลนส์เกรดโปร ที่มีชื่อเสียงอย่างCarl
Zeiss และ Leica นั้น ได้รับการยอมรับจากนักถ่ายภาพทั่ว |
|
|
โลกว่าเป็นเลนส์ที่มีความประณีตในการผลิต
ดีเยี่ยม ทำให้ภาพที่ถ่าย ได้มีคุณภาพเป็นเลิศแต่ราคาของเลนส์สองยี่ห้อ
ก็มีราคาสูงขึ้น |
|
|
ตามคุณภาพ
ที่เพิ่มขึ้นทางยาวโฟกัสของเลนส์ (Focal
Length) นั้นหมายถึง ระยะทางจากจุด ศูนย์กลางโฟกัสของเลนส์
|
|
|
(Optical
centerof lens) ถึงระนาบโฟกัสของของภาพหรือ
ฟิล์มเมื่อเลนส์ตั้งระยะความชัด ไว้ไกลสุด
(Infinity) ทางยาวโฟกัส |
|
|
ของเลนส์เป็นปัจจัยสำคัญอันหนึ่งที่นักถ่ายภาพควร
สนใจเรียนรู้ เพื่อที่จะใช้ประโยชน์ จากคุณสมบัติของทางยาวโฟกัสเลนสในช่วง์
|
|
|
ต่างๆ
เนื่องจากเลนส์ในแต่ละช่วงทางยาวโฟกัสมีคุณสมบัติทางเพอสเปกตีฟไม่เหมือนกัน
ผู้ผลิตเลนส์ มักเขียนบอกทางยาวโฟกัส
|
|
|
เลนส์ไว้ที่ขอบเลนส์ด้านหน้าเช่น
F = 50 mm, F = 35 mm และ F = 28 mm ทาง
ยาวโฟกัสของเลนส์ ที่แตกต่างกันจะให้ผล |
|
|
และ
มีมุมรับภาพที่แตกต่างกันด้วย อาทิ เลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสสั้น
เช่น เลนส์ 28 มม.จะมีมุมรับภาพที่กว้างกว่าเลนส์ที่มีทางโฟกัสยาว |
|
|
ี่กว่า
เช่น เลนส์ 50 มม. |
|
|
|
นอกจากนั้นทางยาวโฟกัสของเลนส์ยังมีผลต่อช่วงความชัดของภาพด้วยเลนส์ไวด์มุมกว้างจะให้ผลในเรื่อง
ความคมชัดได้มากกว่า |
|
|
|
เลนส์ที่มีองศาแคบกว่าอย่างเลนส์เทเลโฟโต้
อ่านต่อเรื่อง เทคนิคการใช้เลนส์แบบมืออาชีพ
|
|
|
ไดอะแฟรม
(Diaphragm) |
|
|
ในตัวเลนส์
จะมีกลไกชิ้นหนึ่ง ที่ใช้ ในการควบคุมปริมาณแสงให้แสงผ่าน
เลนส์ไปยังฟิล์มได้มากน้อยตามความต้อง
การเรียกว่า |
|
|
ไดอะแฟรมมีลักษณะเป็นแผ่นโลหะสีดำบางๆหลายแผ่น
เรียงซ้อนกัน เป็นกลีบ มีช่องตรงกลางปรับขนาดให้กว้างหรือแคบได้เรียกว่า |
|
|
รูรับแสง
(Aperture) การปรับขนาดรูรับแสง ใช้การปรับที่วงแหวนรูรับแสงบนกระบอกเลนส์ในกล้องสมัยใหม่บางรุ่น
อาจใช้การปรับที่ |
|
|
ี่วงแหวน
ควบคุม ซึ่งอยู่ในตัวกล้องได้เลย บนวงแหวนปรับรูรับแสง
จะมีตัวเลข แสดงค่ารูรับ แสง ตั้งแต่1.0
1.4 1.8 2 2.8 3.5 4 |
|
|
5.6
811 16 22 32 เราเรียกตัวเลขเรานี้ว่า
เลข เอฟ (f-number) หรือเอฟสตอป (f-stop)ตัวเลขที่มีค่าน้อย
ยิ่งเป็นการเปิดรู |
|
|
รับแสงกว้างทำให้แสง ผ่านเข้าไปได้มากและหากตัวเลข
มีค่ามาก ก็จะเป็นการเปิดรูรับแสงให้
แคบลง ทำให้แสง ผ่านเข้าไปได้น้อย |
|
|
ตัวเลขของขนาด
รูรับแสงเหล่านี้มีผลต่อในเรื่อง ความคมชัดกับระยะชัดลึก
ชัดตื้น ของภาพ อีกด้วย การปรับค่ารูรับแสงจากเอฟ
|
|
|
สตอบหนึ่งไปยังอีก
เอฟสตอปหนึ่ง เช่น f/11 เป็น f/16ก็จะลดปริมาณความเข้มของแสงที่ส่องบนฟิล์มให้ลดลงครึ่งหนึ่งหรือเมื่อเพิ่ม |
|
|
จาก
f/11 เป็น f/8ปริมาณ ของแสงที่ส่องลงบนฟิล์มก็จะมากกว่า
เดิมเป็น 2 เท่าของเอฟสตอปเดิม |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|